15 คำถามแบบทดสอบกลยุทธ์การกำหนดราคาและคำตอบ

กลยุทธ์การกำหนดราคาหมายถึงวิธีการและวิธีการที่ธุรกิจใช้เพื่อกำหนดราคาผลิตภัณฑ์หรือบริการของพวกเขา มันเป็นองค์ประกอบสำคัญของส่วนประสมการตลาดที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อรายได้ของ บริษัท ผลกำไรและความสามารถในการแข่งขันโดยรวมในตลาด กลยุทธ์การกำหนดราคาที่กำหนดไว้อย่างดีพิจารณาปัจจัยภายในและภายนอกต่าง ๆ เพื่อกำหนดราคาที่มีประสิทธิภาพและยั่งยืนที่สุดสำหรับข้อเสนอ

กลยุทธ์การกำหนดราคาทั่วไปบางอย่าง ได้แก่ :

การกำหนดราคาตามต้นทุน: กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการกำหนดราคาตามต้นทุนการผลิตของผลิตภัณฑ์หรือบริการพร้อมกับอัตรากำไรที่ต้องการ ช่วยให้มั่นใจได้ว่า บริษัท ครอบคลุมค่าใช้จ่ายและบรรลุระดับการทำกำไรที่ต้องการ

การกำหนดราคาตามตลาด: การกำหนดราคาตามตลาดขึ้นอยู่กับการวิเคราะห์ราคาที่กำหนดโดยคู่แข่งสำหรับผลิตภัณฑ์หรือบริการที่คล้ายกัน จากนั้น บริษัท จะวางตำแหน่งราคาเมื่อเทียบกับการแข่งขันโดยเสนอราคาที่ต่ำกว่าเพื่อดึงดูดลูกค้าที่ใส่ใจต้นทุนหรือราคาที่สูงขึ้นเพื่อถ่ายทอดคุณภาพหรือมูลค่าที่สูงขึ้น

การกำหนดราคาตามมูลค่า: ด้วยราคาตามมูลค่า บริษัท กำหนดราคาตามมูลค่าการรับรู้ของผลิตภัณฑ์หรือบริการในสายตาของลูกค้า มันมุ่งเน้นไปที่ประโยชน์และคุณสมบัติที่เป็นเอกลักษณ์ของการเสนอขายและมีจุดมุ่งหมายเพื่อจับราคาพรีเมี่ยมจากลูกค้าที่รับรู้คุณค่าของผลิตภัณฑ์สูง

การกำหนดราคา SKIMMING: การกำหนดราคา SKIMMING เกี่ยวข้องกับการกำหนดราคาที่สูงในขั้นต้นสำหรับผลิตภัณฑ์หรือบริการใหม่เมื่อมีการแนะนำให้รู้จักกับตลาด กลยุทธ์นี้มักจะใช้สำหรับผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรมหรือพรีเมี่ยมเพื่อใช้ประโยชน์จากความตั้งใจของผู้ใช้ในช่วงต้นที่จะจ่ายในราคาที่สูงขึ้น

การกำหนดราคาการเจาะ: ตรงกันข้ามกับการกำหนดราคาการใช้ราคาการเจาะราคาต่ำสำหรับผลิตภัณฑ์หรือบริการใหม่เพื่อให้ได้ส่วนแบ่งการตลาดอย่างรวดเร็ว กลยุทธ์นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อดึงดูดฐานลูกค้าขนาดใหญ่และสร้างความภักดีต่อแบรนด์

โครงร่างบทความ

ตอนที่ 1: ซอฟต์แวร์ตอบคำถาม AI ที่ดีที่สุดสำหรับการสร้างแบบทดสอบกลยุทธ์การกำหนดราคา

ทุกวันนี้ผู้คนจำนวนมากขึ้นสร้างกลยุทธ์การกำหนดราคาแบบทดสอบโดยใช้เทคโนโลยี AI OnlineExamMaker เครื่องมือสร้างแบบทดสอบ AI ที่มีประสิทธิภาพซึ่งสามารถประหยัดเวลาและความพยายามของคุณได้ ซอฟต์แวร์ทำให้ง่ายต่อการออกแบบและเปิดตัวแบบทดสอบการประเมินและการสำรวจแบบโต้ตอบ ด้วยตัวแก้ไขคำถามคุณสามารถสร้างแบบปรนัยปลายเปิดการจับคู่การเรียงลำดับและคำถามประเภทอื่น ๆ อีกมากมายสำหรับการทดสอบการสอบและสินค้าคงเหลือของคุณ คุณได้รับอนุญาตให้ปรับปรุงแบบทดสอบด้วยองค์ประกอบมัลติมีเดียเช่นรูปภาพเสียงและวิดีโอเพื่อให้มีการโต้ตอบและดึงดูดสายตามากขึ้น

ทัวร์ผลิตภัณฑ์ของ OnlineEexammaker:
●สร้างกลุ่มคำถามผ่านธนาคารคำถามและระบุจำนวนคำถามที่คุณต้องการสุ่มเลือกระหว่างคำถามเหล่านี้
●สร้างและจัดเก็บคำถามในพอร์ทัลส่วนกลางที่ติดแท็กตามหมวดหมู่และคำหลักเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่และจัดระเบียบได้ง่าย
●เพียงแค่คัดลอกรหัสสองสามบรรทัดและเพิ่มลงในหน้าเว็บคุณสามารถนำเสนอแบบทดสอบออนไลน์ของคุณในเว็บไซต์บล็อกหรือหน้า Landing Page
●สุ่มคำถามหรือเปลี่ยนลำดับของคำถามเพื่อให้แน่ใจว่าผู้สอบจะไม่ได้รับคำถามชุดเดียวกันในแต่ละครั้ง

สร้างคำถามโดยอัตโนมัติโดยใช้ AI

สร้างคำถามสำหรับหัวข้อใดๆ
ฟรี 100% ตลอดไป

ส่วนที่ 2: 15 คำถามแบบปรนัยและคำตอบที่เกี่ยวข้องกับกลยุทธ์การกำหนดราคา

  or  

คำถามที่ 1: อะไรคือกลยุทธ์การกำหนดราคา (Pricing Strategy)?
A) วิธีการขายสินค้าให้เร็วที่สุด
B) กลยุทธ์ที่ใช้ในการกำหนดราคาสินค้าหรือบริการเพื่อบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจ
C) การลดราคาสินค้าอย่างต่อเนื่อง
D) วิธีการผลิตสินค้าให้มีต้นทุนต่ำ
คำตอบ: B
คำอธิบาย: กลยุทธ์การกำหนดราคาคือแผนการที่บริษัทใช้เพื่อตั้งราคาสินค้าหรือบริการให้สอดคล้องกับเป้าหมายธุรกิจ เช่น การเพิ่มยอดขายหรือรักษาตลาด โดยช่วยให้บริษัทแข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพ.

คำถามที่ 2: กลยุทธ์การกำหนดราคาตามต้นทุน (Cost-Plus Pricing) เหมาะสำหรับสถานการณ์ใด?
A) เมื่อสินค้ามีความต้องการสูงและแข่งขันสูง
B) เมื่อบริษัทต้องการกำหนดราคาตามมูลค่าที่ลูกค้ารู้สึก
C) เมื่อบริษัทต้องการครอบคลุมต้นทุนการผลิตและได้กำไรคงที่
D) เมื่อสินค้าเป็นสินค้าใหม่ในตลาด
คำตอบ: C
คำอธิบาย: กลยุทธ์นี้คำนวณราคาโดยบวกกำไรที่ต้องการเข้ากับต้นทุน ทำให้มั่นใจว่าบริษัทจะได้รับผลกำไรคงที่และง่ายต่อการคำนวณ แต่ไม่คำนึงถึงปัจจัยตลาดมากนัก.

คำถามที่ 3: กลยุทธ์การกำหนดราคาแบบ Skimming Pricing คืออะไร?
A) การตั้งราคาต่ำเพื่อดึงดูดลูกค้าใหม่
B) การตั้งราคาสูงในช่วงแรกแล้วลดลงเมื่อตลาดอิ่มตัว
C) การตั้งราคาตามคู่แข่งโดยตรง
D) การผสมสินค้าหลายชนิดเพื่อขายในราคาเดียว
คำตอบ: B
คำอธิบาย: กลยุทธ์นี้ใช้สำหรับสินค้าใหม่ที่มีนวัตกรรม โดยตั้งราคาสูงเพื่อเก็บรายได้จากลูกค้าที่พร้อมจ่ายก่อน แล้วลดราคาเมื่อคู่แข่งเพิ่มขึ้น.

คำถามที่ 4: กลยุทธ์การกำหนดราคาแบบ Value-Based Pricing ขึ้นอยู่กับปัจจัยใดเป็นหลัก?
A) ต้นทุนการผลิตของบริษัท
B) มูลค่าที่ลูกค้ารู้สึกได้รับจากสินค้าหรือบริการ
C) ราคาของคู่แข่งในตลาด
D) การเปลี่ยนแปลงของอุปสงค์และอุปทาน
คำตอบ: B
คำอธิบาย: กลยุทธ์นี้มุ่งเน้นที่การประเมินมูลค่าที่ลูกค้าต้องการ โดยตั้งราคาตามประโยชน์ที่ลูกค้ารู้สึกได้รับ ทำให้สามารถขายได้ในราคาสูงกว่าต้นทุนจริง.

คำถามที่ 5: อะไรคือจุดแข็งของกลยุทธ์การกำหนดราคาแบบ Penetration Pricing?
A) สร้างภาพลักษณ์พรีเมี่ยมให้สินค้า
B) ช่วยให้บริษัทครอบครองตลาดได้รวดเร็วโดยการลดราคาเริ่มต้น
C) รับรองกำไรคงที่ในระยะยาว
D) ลดความเสี่ยงจากคู่แข่งรายใหม่
คำตอบ: B
คำอธิบาย: กลยุทธ์นี้ใช้การตั้งราคาต่ำในช่วงเริ่มต้นเพื่อดึงดูดลูกค้าและเพิ่มส่วนแบ่งตลาดอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะปรับราคาขึ้นเมื่อฐานลูกค้าแข็งแกร่ง.

คำถามที่ 6: กลยุทธ์การกำหนดราคาแบบ Psychological Pricing ใช้หลักการใด?
A) ตั้งราคาตามต้นทุนจริงอย่างแม่นยำ
B) ใช้ราคาที่ดูน่าสนใจทางจิตวิทยา เช่น 9.99 บาท
C) ปรับราคาตามฤดูกาลเท่านั้น
D) รวมสินค้าหลายรายการในราคาเดียว
คำตอบ: B
คำอธิบาย: กลยุทธ์นี้เล่นกับความรู้สึกของลูกค้า โดยตั้งราคาให้ดูต่ำกว่าจริง เช่น ใช้เลขท้ายเป็น 9 เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกว่าคุ้มค่าและจูงใจให้ซื้อ.

คำถามที่ 7: กลยุทธ์การกำหนดราคาแบบ Competitive Pricing หมายถึงอะไร?
A) การตั้งราคาสูงกว่าคู่แข่งเพื่อสร้างภาพพรีเมี่ยม
B) การตั้งราคาให้ใกล้เคียงกับคู่แข่งเพื่อแข่งขัน
C) การลดราคาลงต่ำกว่าคู่แข่งเพื่อดึงลูกค้า
D) การกำหนดราคาตามอุปสงค์ของตลาดเท่านั้น
คำตอบ: B
คำอธิบาย: กลยุทธ์นี้มุ่งเน้นการวิเคราะห์ราคาของคู่แข่งและตั้งราคาให้เท่าทัดเทียม เพื่อรักษาตลาดและหลีกเลี่ยงการสูญเสียลูกค้า.

คำถามที่ 8: กลยุทธ์ Dynamic Pricing ใช้ในสถานการณ์ใดบ่อยที่สุด?
A) การขายสินค้าอุตสาหกรรม
B) การขายสินค้าออนไลน์ที่ราคาเปลี่ยนแปลงตามอุปสงค์
C) การขายสินค้าที่มีราคาตายตัว
D) การขายสินค้าในตลาดท้องถิ่น
คำตอบ: B
คำอธิบาย: กลยุทธ์นี้ปรับราคาแบบเรียลไทม์ตามปัจจัย เช่น อุปสงค์ สภาพอากาศ หรือเวลา ทำให้ธุรกิจออนไลน์อย่าง e-commerce สามารถเพิ่มรายได้ได้.

คำถามที่ 9: อะไรคือความเสี่ยงของกลยุทธ์การกำหนดราคาแบบ Skimming?
A) ลูกค้าอาจไม่ยอมจ่ายราคาสูง
B) คู่แข่งอาจเลียนแบบและลดราคาได้เร็ว
C) ต้นทุนการผลิตอาจสูงเกินไป
D) สินค้าอาจขายไม่ออกในตลาด
คำตอบ: B
คำอธิบาย: กลยุทธ์นี้เสี่ยงต่อการที่คู่แข่งนำเสนอสินค้าทดแทนในราคาต่ำกว่า ทำให้บริษัทต้องลดราคาเร็วและสูญเสียกำไร.

คำถามที่ 10: กลยุทธ์การกำหนดราคาแบบ Bundle Pricing มีประโยชน์อย่างไร?
A) ช่วยลดต้นทุนการผลิต
B) สร้างมูลค่าเพิ่มโดยขายสินค้าหลายชิ้นในราคาเดียวเพื่อจูงใจลูกค้า
C) ทำให้สินค้าดูแพงขึ้น
D) จำกัดการเข้าถึงของลูกค้าใหม่
คำตอบ: B
คำอธิบาย: กลยุทธ์นี้รวมสินค้าหลายรายการเข้าด้วยกันในราคาที่ต่ำกว่าซื้อแยก ทำให้ลูกค้ารู้สึกคุ้มค่าและเพิ่มยอดขาย.

คำถามที่ 11: เมื่อใดที่บริษัทควรใช้กลยุทธ์ Value-Based Pricing?
A) เมื่อต้นทุนการผลิตสูงมาก
B) เมื่อสินค้ามีเอกลักษณ์และลูกค้ารู้สึกว่ามีมูลค่าสูง
C) เมื่อตลาดแข่งขันสูงและต้องลดราคา
D) เมื่อสินค้าเป็นสินค้าธรรมดา
คำตอบ: B
คำอธิบาย: กลยุทธ์นี้เหมาะสำหรับสินค้าที่ลูกค้ายินดีจ่ายตามมูลค่าที่ได้รับ เช่น สินค้าฟุ่มเฟือยหรือบริการเฉพาะ.

คำถามที่ 12: กลยุทธ์การกำหนดราคาแบบ Price Discrimination หมายถึงอะไร?
A) การตั้งราคาเดียวสำหรับทุกคน
B) การตั้งราคาแตกต่างกันตามกลุ่มลูกค้า เช่น ตามอายุหรือตำแหน่ง
C) การเพิ่มราคาทั่วไปในตลาด
D) การลดราคาสำหรับสินค้าคุณภาพต่ำ
คำตอบ: B
คำอธิบาย: กลยุทธ์นี้ใช้การแบ่งกลุ่มลูกค้าและตั้งราคาให้แตกต่างเพื่อเพิ่มรายได้จากแต่ละกลุ่ม โดยอาศัยความยืดหยุ่นของอุปสงค์.

คำถามที่ 13: อะไรคือปัจจัยสำคัญในการวิเคราะห์ Break-Even Point สำหรับกลยุทธ์การกำหนดราคา?
A) ราคาตลาดของคู่แข่ง
B) จุดที่รายได้เท่ากับต้นทุนทั้งหมด
C) อุปสงค์ของลูกค้า
D) การโฆษณาสินค้า
คำตอบ: B
คำอธิบาย: Break-Even Point เป็นจุดที่บริษัทไม่ขาดทุนหรือกำไร โดยช่วยในการตัดสินใจตั้งราคาให้ครอบคลุมต้นทุน.

คำถามที่ 14: กลยุทธ์ Freemium Model ใช้ในธุรกิจใดบ่อยที่สุด?
A) ธุรกิจค้าปลีก
B) ธุรกิจซอฟต์แวร์หรือแอปพลิเคชันออนไลน์
C) ธุรกิจอุตสาหกรรมหนัก
D) ธุรกิจอาหาร
คำตอบ: B
คำอธิบาย: กลยุทธ์นี้ให้บริการพื้นฐานฟรีและเรียกเก็บเงินสำหรับฟีเจอร์พรีเมี่ยม ทำให้ดึงดูดผู้ใช้ใหม่และแปลงเป็นลูกค้าจ่ายเงิน.

คำถามที่ 15: อะไรคือความท้าทายทางจริยธรรมของกลยุทธ์การกำหนดราคา?
A) การกำหนดราคาที่ยุติธรรมเพื่อหลีกเลี่ยงการเอาเปรียบลูกค้า
B) การเพิ่มราคาโดยไม่แจ้งให้ทราบ
C) การแข่งขันกับคู่แข่งอย่างเสรี
D) การลดต้นทุนการผลิต
คำตอบ: A
คำอธิบาย: กลยุทธ์การกำหนดราคาอาจนำไปสู่ปัญหาทางจริยธรรม เช่น การฉวยโอกาสจากลูกค้าที่มีทางเลือกน้อย ทำให้บริษัทต้องพิจารณาความยุติธรรม.

  or  

ตอนที่ 3: ประหยัดเวลาและพลังงาน: คำถามตอบคำถาม gnerate ด้วยเทคโนโลยี AI

สร้างคำถามโดยอัตโนมัติโดยใช้ AI

สร้างคำถามสำหรับหัวข้อใดๆ
ฟรี 100% ตลอดไป